หญิงชัวร์-ชายลุ้น แชมป์ลูกยางซีเกมส์
3ทองธนูไทยความหวังที่ต้องพิสูจน์!!!
ในทางกลับกัน สำหรับคนที่หมดความพยามและไร้ความอดทน ความผิดหวังเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ถอดใจและหยุดความฝันไว้เพียงแค่นั้น!!!
ความสำเร็จ...แม้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็เกิดขึ้นกับทุกคนได้ หากคนๆ นั้นไม่ละทิ้งความ" อดทน" ไว้ระหว่างทาง!!!
เช่นเดียวกับ" โรบินฮู้ดไทย" ที่ต้องพานพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ความมั่นใจที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 23 ประเทศฟิลิปินส์ สมาคมคาดหวังกับทีมคันธนูโค้งกลับที่ปั้นและสร้างกันมาหลายปี จนคว้าเหรียญทองบุคคลในซีเกมส์ครั้งที่ 21 และเหรียญเงินประเภททีม ส่วนซีเกมส์ครั้งที่ 22 ประเทศเวียดนามไม่มีบรรจุ เมื่อถึงซีเกมส์ครั้งที่ 23 ยิงธนูจึงหวังจะกลับไปป้องกันแชมป์บุคคลชาย และแก้มือหยิบเหรียญประเภทมือมาครอง พร้อมกับการันตีว่า ยิงธนูจะเป็นเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาไทยในซีเกมส์ครั้งที่ 23 อย่างแน่นอน
สื่อมวลชนไทย ทุกสื่อ จึงไปรอเหรียญทองแรกจากยิงธนู!!!
แต่...สถานการณ์กลับตาล เพราะนักกีฬายิงกันแบบ" เล่นไล่โค้ช" คะแนนแต่ละคนหลุดหลุ่ย ชนิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ เหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาจึงหลุดมือ ยิงธนู พร้อมกับเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทำเอา"เฮียหงวน" สงวน โฆษะวิน นายกสมาคมยิงธนูฯ ถึงกับอึ้งและแทบจะปี๊บคลุมหัว เดินคอตกออกจากสนาม เพราะไม่คิดว่านักกีฬาจะกล้าทำอย่างนี้ !!!
หลังเสร็จภาระกิจจากซีเกมส์ครั้งที่ 23 นายกสมาคมฯ สั่งโละนักกีฬาชุดเหรียญเงินซีเกมส์ครั้งที่ 22 ประกอบด้วย ประวิต พลจังหรีด, ปริญโรจน์ พละสุนทร และ อาคม ปันน้อย ยกชุด และปั้น"เลือดใหม่" ขึ้นมาทดแทน โดยเน้นเอานักกีฬาที่มีระเบียบวินัยเป็นหลัก จึงได้ จ่าโท วิทยา ทำว่อง,พันจ่าตรี เด่นชัย เทพนา และ คมกฤษณ์ ดวงสุวรรณ์ มาฝึกซ้อมเก็บตัวอย่างจริงจัง ส่งไปฝึกที่"แดนโสมขาว" เพื่อฝึกทักษะ ซีเกมส์ครั้งที่ 24 "โรบินฮู้ดหนุ่ม" ชุดนี้ยังทำผลงานให้กับประเทศไม่ได้
ส่งผลให้ซีเกมส์ครั้งที่ 25 ณ ประเทศลาว ยิงธนูหวิดชวดแข่ง เพราะเป็นกีฬาที่ไม่มีเหรียญทอง แต่"เฮียหงวน" เอาศักดิ์ศรีของนายกสมาคมฯ เป็นเดิมพัน หากซีเกมส์ที่ลาวธนูไร้เหรียญทองก็ขอ"ลาออก" จากตำแหน่ง!!!
เมื่อกล้ายืนยันขนาดนี้ นั้นแสดงว่า "เฮียหงวน" มีความมั่นใจกับนักกีฬาชุดนี้เต็มร้อย พร้อมกับเรียกนักแม่นเป้ามือเก๋าอย่าง" ประวิต พลจังหรีด กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง และ 3 นักแม่นเป้า "เลือดใหม่" ไม่ทำให้ผิดหวัง ยิงเฉือนแชมป์เก่า "เสือเหลือง" มาเลเซีย 1 แต้ม คว้าเหรียญทองทีมชายมาครองได้สำเร็จ!!!
ยิงธนู กู้หน้าให้กับตัวเองได้อีกครั้งกับผลงานที่ไม่มีใครเชือ หรือคาดหวังว่าธนูไทยจะทำได้ดั่งวาจาที่เปล่งออกมา!!!
จากนั้นผลงานของทีมโรบินฮู้ดหนุ่มในประเภทคันธนูโค้งกลับเริ่มดี ขึ้นเรื่อยๆ กอดคอกันไปคว้าแชมป์หลายรายการ ส่งผลให้ซีเกมส์ครั้งนี้ ยิงธนู ทำต้องทำให้วงการกีฬาไทยตื่นกระหนกตกใจอีกครั้ง กับการตั้งเป้าในการคว้าเหรียญทองไว้ถึง 3 เหรียญทอง!!!
โดยอีเว้นที่ตั้งเป้าไว้คือ ทีมชายคันธนูโค้งกลับ และการไปครั้งนี้เพื่อ"ป้องกันแชมป์", คันธนูทดกำลังทีมชาย และ คันธนูทดกำลังหญิง เพราะนายกสมาคมยิงธนูมั่นใจฝีมือการยิงของนักกีฬาที่มีการฝึกซ้อมมาอย่างต่อ เนื่อง แต่ผลการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียล่าสุด "โรบินฮู้ด"มาเลเซียที่พ่ายให้กับไทยในซีเกมส์ครั้งที่ 25 เฉือนนักแม่นเป้าจาก"แดนมังกร" ในรอบชิงชนะเลิศ ผงาดว้าแชมป์เอเชีย 2011 มาครองได้สำเร็จ ในขณะที่ ไทยนั้นประเภททีมทำคะแนนไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ส่วนคันธนูทดกำลังก็เช่นกัน ทัพโรบินฮู้ดหนุ่มไทย ยิงคว้าอันดับ 8 ของเอเชีย ในขณะที่ "เสือเหลือง" พ่ายให้กับ "โสมขาว" เกาหลีใต้ ในรอบชิงเหรียญทองแดง คว้าที่ 4 มาครอง
ซีเกมส์ครั้งนี้เห็นทีว่าไทย เจอศึกหนัก"อิเหนา" ที่เคยเป็นคู่ปรับเก่าของไทย ณ เวลานี้ เป็นได้เพียงไม้ประดับเพราะคู่แข่งตัวจริงคือ" มาเลเซีย"
จากผลงานชิงแชมป์เอเชีย ณ เวลา นี้ ไทยยังเป็นรอง มาเลเซียอยู่ไม่น้อย และทำให้โอกาสซิว 3 เหรียญทองของไทยดูจะเป็นเรื่องเกินจริง เพราะแค่"ป้องกันแชมป์" ยังเป็นเรื่องยาก
แต่..เมื่อลั่นวาจาไปแล้วว่า 3 เหรียญทอง งานหนักย่อมตกอยู่ที่ทัพ"โรบินอู้ดไทย" ประสบการณ์ในชิงแชมป์เอเชีย น่าจะทำให้ ไทยประเมินคู่แข่งอย่าง มาเลเซีย และ อินโดนีเซียได้ชัดเจนมากขึ้น ว่าจะต้องปรับแก้ จุดไหน เพื่อให้ 3 เหรียญทองกลายเป็นจริง
หลายคนอาจจะมองเป็น"ฝันโง่" ที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ แต่สำหรับนักกีฬายิงธนูแล้ว 3 เหรียญทองคือความหวังที่ต้องพิสูจน์ ว่าจะทำให้เป็นจริงได้หรือไม่??
ปืนไทยลำบาก เจ้าทองยาก!!!
ตั้งแต่กำเนิดศึกกีฬาซีเกมส์มาแล้ว 25 ครั้งนับระยะเวลาก็กว่า 50 ปี กีฬายิงปืน ถือว่าเป็นหนึ่งในกีฬาระดับต้นๆของไทยที่เป็น "ความหวัง" ในการคว้า "เหรียญทอง" ให้ชาติได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
นอกจากรายการแข่งขันให้ชิงชัยเหรียญรางวัลมีมากแล้ว ด้วยฝีมือและศักยภาพแม่นปืนไทยนั้นยังจัดว่า "เหนือกว่า" ชาติคู่แข่งในอาเซียนเยอะ
ทว่าหลังจากที่สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ได้เกิดปัญหาภายในมุ้งที่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ฟ้องร้อง กันยุ่งเหยิงมานานกว่า 4 ปี ทำให้มือปืนไทยประสิทธิภาพนั้นหย่อนลงไปมาก
ด้วยการขาดผู้สนับสนุนส่งแข่งขันหาประสบการณ์ในรายการระดับโลก และ นานาชาติ และจากปัญหาต่างๆได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำลายสมาธินักกีฬาเป็นอย่างมาก
ที่สำคัญในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซียครั้งนี้ เจ้าภาพยังได้ตัดการแข่งขันชิงชัยเหรียญทองออกไปหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภททีม ที่เคยมีบรรจุแข่งขันในซีเกมส์มาตลอด 25 ครั้งก็ยังถูกหั่นออกไปหมด เหลือแค่ประเภทบุคคลเท่านั้น
ทำให้จากยอดชิงเหรียญทองของกีฬายิงปืนที่เคยมีในซีเกมส์ร่วมๆ 30 เหรียญทองก็ต้องหดลดลงมาเหลือแค่ 14 เหรียญทอง จาก ปืนสั้นอัดลมหญิง, ปืนรันนิ่งชาย-หญิง, ปืนยาว 3 ท่าชาย-หญิง, ปืนยาวท่านอนชาย-หญิง, ปืนยาวอัดลมชาย-หญิง, ปืนสั้นยิงช้า, ปืนสั้นยิงเร็ว, ปืนสั้นชนวนกลาง, ปืนสั้นอัดลม และ ปืนสั้นมาตรฐาน
การเหลือแค่ประเภทบุคคลทำให้โอกาสในการคว้าเหรียญทองของทีมปืนไทยนั้นค่อนข้างยากลำบากมากขึ้นเป็นทวีคูณ
เพราะซีเกมส์ครั้งที่ผ่านๆมา นักกีฬายิงปืนไทยแม้จะพลาดเหรียญทองบุคคลก็ยังสามารถเกี่ยวเหรียญทองมาคล้องคอได้จากประเภททีม
ด้วยคะแนนการยิงโดยเฉลี่ยของทีมปืนไทยนั้นค่อนข้างเกาะกลุ่มกันดีกว่าชาติอื่นๆในอาเซี่ยน
แต่สำหรับเหรียญทองบุคคลนั้นต้องมองว่าอาจจะลำบาก...หากเทียบกับคู่แข่งต่างชาติ คะแนนการยิงชุดต่อชุดยังถือว่าเป็นรอง !!!
และเมื่อย้อนกลับไปที่ศึกยิงปืนชิงชนะเลิศเอเชียอาคเนย์ หรือ ซีซ่า ที่ลาวเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข่งขันยิงปืนในกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ร่วมด้วย ไต้หวัน จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 35
จะว่าไปแล้วรายการนี้มีความสำคัญระดับน้องๆซีเกมส์ก็ว่าได้ และ สนามแข่งขันที่ลาวก็ยังถือเป็นแมตช์ ปรี-ซีเกมส์ ที่มีแม่นปืนทีมชาติในอาเซียนลงสนามแข่งขันกันอย่างคับคั่ง แข่งขันกันทั้งสิ้น 11 รายการ (รวมประเภททีม)
ทีมแม่นปืนไทยกระชากมาได้ 4 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง
แม้จะเป็นจำนวนเหรียญทองที่คว้ามาได้ค่อนข้างน้อย แต่ยังน่าดีใจตรงที่ 4 เหรียญทองที่ได้นั้นเป็นรายการแข่งขันจากประเภทบุคคล โดยเป็นฝีมือของมือปืนดาวรุ่ง "เจ้าซัน" ปองพล กุลชัยรัตนา ถึง 2 เหรียญทองจาก ปืนสั้นยิงช้า กับ ปืนสั้นอัดลม
ขณะที่อีก 2 เหรียญทองเป็นของ วีระวัฒน์ ชายสวัสดิ์ ในประเภทปืนยาวอัดลม และ อัฐพล เอื้ออารี จากปืนยาวท่านอน
ดังนั้นหากจะมองทะลุไปถึงซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ซึ่งทีมแม่นปืนไทยจะยกพลบุกถิ่นอิเหนาถึง 23 ชีวิตนั้นโอกาสที่ทีมปืนไทยจะยึดเจ้าเหรียญทอง ครองได้เกิน 10 เหรียญเหมือนซีเกมส์ทุกครั้งที่ผ่านมานั้นคงยาก !!!
แต่ก็ยังเชื่อว่าศึกครั้งนี้โอกาสที่จะหยิบได้ต่ำกว่า 5 เหรียญทองนั้นก็มีน้อยเช่นกัน...
ความหวังยังคงอยู่ที่ "เจ้าซัน" ปองพล กุลชัยรัตนา ที่ผ่านคัดลงแข่งซีเกมส์ได้ถึง 3 รายการเท่ากับรุ่นพี่ "เจ้าเอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม แต่ความเป็นดาวรุ่งมือใหม่ไฟแรง และเพิ่งคว้าแชมป์ซีซ่ามานั้น ยังคงวางใจได้ในฝีมือของมือปืนหนุ่มผู้นี้ น่าจะมีติดมืออย่างน้อย 2 ทอง
ส่วนปืนยาวชาย-หญิง ที่มีแข่งรวมกัน 6 เหรียญทอง มองจากความเป็นจริงแล้ว แม้จะได้มือเก๋า กับ มือใหม่ ลงสนามก็ยังนับว่าเป็นรองคู่แข่งเยอะ ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือแม้แต่เมียนม่าร์ คว้ามาได้ 2 ทองก็นับว่าหรูแล้ว
ส่วนปืนสั้นหญิง ซีเกมส์ครั้งนี้มีแข่งแค่รายการเดียวคือ ปืนสั้นอัดลม ต้องมาวัดฝีมือ "ธันย่า" ธันยพร พฤกษากร ว่าจะฟันฝ่าด่านหินไปได้หรือไม่
เหรียญทองที่ 5 จึงต้องมาวัดศักยภาพของมือปืนรุ่นเก่าไม่ว่าจะเป็น จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ที่รับบทบาทลงสนามแข่ง 3 รายการ, เทวฤทธิ์ มัจฉาชีพ, วราวุธ มัจฉาชีพ ว่าจะยังแกร่งพอหยิบทองได้หรือไม่
ขณะเดียวกันก็ยังต้องมาลุ้นกับมือปืนรุ่นใหม่ ทั้ง สุนันทา มัจฉาชีพ, วิชชุดา ไพจิตรกาญจนกุล รวมถึงแชมป์ซีซ่า อย่าง วีระวัฒน์ ชายสวัสดิ์ และ อัฐพล เอื้ออารี จะยังคงรักษามาตรฐานคะแนนยิงไว้ได้เหนียวแน่นไปจนถึงซีเกมส์หรือเปล่า
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ยังมีปัจจัยคือคู่แข่งต่างชาติที่อาจจะใช้เวทีซีซ่ามาหยั่งฟอร์มมือปืนไทย และยังไม่จัดเต็มออกมาให้เห็น
และเก็บไว้โชว์ฟอร์มเด็ดทีเดียวในซีเกมส์เลย...จุดนี้แหละที่จะเป็นจุดอันตรายที่มือปืนไทยต้องไม่ประมาท...
โค้งสุดท้ายยังมีโอกาสได้เร่งฟิตซ้อมเต็มที่...เหรียญทองซีเกมส์ นับเป็นโอกาสเดียวที่จะได้สร้างชื่อ กู้ภาพลักษณ์วงการแม่นปืนไทยให้กลับมาโดดเด่น และ ผงาดเป็นกีฬาความหวังระดับแถวหน้าของไทยต่อไป
แม้เจ้าเหรียญทองจะได้ครองยาก...แต่ก็ยังดีกว่าคว้าไม่ได้เลยแม้แต่เหรียญทองเดียว !!!
กรีฑาไทยมั่นใจรักษาบังลังค์เจ้าซีเกมส์
หลัง "เจ้าภาพ" อินโดนีเซีย ปล่อยให้ลุ้นกันมานานสองนานว่าจะจัดแข่งขันได้หรือไม่ได้
ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าวอลเลย์บอลในร่มประเภททีมหญิง สามารถจัดการแข่งขันได้ชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีประเทศตอบรับแล้ว 4 ประเทศ ประกอบด้วย เจ้าภาพ, เวียดนาม, พม่า และ ไทย เจ้าของแชมป์ 7 สมัย นับตั้งแต่เมื่อปี 2538 ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 18
แม้จะเปลี่ยนผู้เล่นจากรุ่นสู่รุ่น แต่สาวไทยยังครองความเป็นหนึ่งของเวทีอาเซียนได้อย่างมิเสื่อมคลาย
โดยเฉพาะนักตบสาวชุดปัจจุบัน หลังโค่น "จีน" อดีตมหาอำนาจลูกยางโลก ที่ผูกขาดแชมป์ในระดับเอเชียมาอย่างยาวนาน กระทั่งไทยผงาดขึ้นครองแชมป์เอเชียเมื่อปี 2009 ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับนักกีฬาไทยมากขึ้นก่อนตอกย้ำชัยชนะเหนือ "จีน" อีกครั้งในเวิร์ลด์ กรังด์ ปรีซ์ 2011 รอบสุดท้าย ที่มาเก๊า พาให้สาวไทยฝากผลงานไว้ที่อันดับ 6 และผลจากสังเวียนนี้ทำให้อันดับโลกของไทยขยับขึ้นติดท็อป 10 ของโลก
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้นักตบสาวไทยชุดนี้ถูกยกให้เป็นชุดที่เก่งและแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ผลงานนานาทัวร์นาเม้นท์ในรอบปี ไม่ว่าจะเป็น อันดับ 6 เวิร์ลด์ กรังด์ ปรีซ์, อันดับ 4 ชิงแชมป์เอเชีย หรือ อันดับ 5 สโมสรหญิงชิงแชมป์โลก ส่งผลให้ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย นักตบสาวไทย มองเป้าหมายแค่เหรียญทองเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในปีนี้สมาคมฯ ได้เรียกน้องใหม่เข้าแคมป์เพื่อหวังจะเป็นตัวเสริมทัพอีก 2 คน คือ พรพรรณ เกิดปาด และ สุรัสวดี บุญยืน
และแม้ว่าจะมีคู่แข่งตลอดกาลอย่าง "เหงียน" เวียดนาม ที่ฝีมือพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งทีม "เจ้าภาพ" ซึ่งแน่นอนว่ากองเชียร์จะสร้างกดดันให้กับทีมไทยไม่น้อย แต่มั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทีมลูกยางสาวไทยกับการก้าวไปหยิบแชมป์ สมัยที่ 8 เพราะเกมที่หนักและกดดันกว่านี้พวกเธอก็ผ่านมาได้
ฉะนั้นศึกซีเกมส์หนที่ 26 จึงไม่ต่างจากศึกแห่งศักดิ์ศรี...ศักดิ์ศรีของแชมป์ 7 สมัย ที่จะต้องรักษาความเป็นหนึ่งไว้ได้
ขณะที่ ทีมชาย แม้ความโชกโชนและความเจนจัดของประสบการณ์จะน้อยกว่าทีมหญิง ทว่า "ใจ" เกินร้อย เมื่อรวมเข้ากับผลการแข่งขัน 2 ไฟล์ทล่าสุดที่สามารถเอาชนะ "เจ้าภาพ" ได้ทั้งในศึกวอลเลย์บอลสโมสรชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 3-1 (25–14, 25–18, 25–27, 25–23) ในนัดชิงที่ 5
ก่อนย้ำแค้นได้อีกครั้งในสังเวียนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 16 จนก้าวขึ้นไปคว้าอันดับที่ 10 ทิ้งให้ "อิเหนา" ได้แค่อันดับ 11
ชัยชนะ 2 ครั้งติด ช่วยเพิ่มควมมั่นใจให้กับ หนุ่มไทย ได้ไม่น้อย
"โค้ชยุ่น" น.ต.มนต์ชัย สุภจิรกุล เฮดโค้ชทีมชาย เผยว่า สภาพทีมสมบูรณ์เเล้วกว่า 80 เปอร์เซนต์ อาการบาดเจ็บของ วันชัย ทัพวิเศษ หายเป็นปกติและสามารถลงเเข่งขันได้อย่างเเน่นอน จากการฝึกซ้อมที่ผ่านมา นักกีฬามีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจเต็มที่เพราะว่าอยากประสบความสำเร็จ
"ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทุกทีมค่อนข้างจะเเข็งเเกร่ง บอกนักกีฬาเสมออย่าคาดหวังเหรียญทองมากนัก เพราะกลัวจะสร้างเเรงกดดันเวลาลงเเข่งขันเเเละอาจจะส่งผลกระทบต่อฟอร์มการ เล่น ส่วนคู่แข่งสำคับคือ เจ้าภาพ ซึ่งเขาต้องการแชมป์อีกสมัย และเขาส่งนักกีฬาไปเก็บตัวต่างประเทศเพื่อรายการนี้โดยเฉพาะ ฉะนั้นเราจะไม่ประมาทไม่ได้"
ด้าน นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลฯ เปิดเผยว่า ผู้ชายเราก็มีความหวังและจาการที่ได้พูดคุยกับโค้ชและนักกีฬาเขาก็บอกเขาสู้ กันทุกคน และประสบการณ์จากที่ได้แข่งขันกัมมาก็ทำให้ได้เห็นศักยภาพของทีมต่างๆ ในอาเซียน วึ่งคู่แข่งเราคงไม่หนี อินโดนีเซีย, เวียดนาม และ พม่า ที่จะขับเคี่ยวกัน ส่วนทีมหญิงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาในการคว้าแชมป์ แม้ว่าปีที่แล้วเราเกือบจะแพ้ให้กับ เวียดนาม ในนัดชิงชนะเลิศ แต่ตรงนั้นก็เป็นบทเรียนให้เรานำกลับมาแก้ไข ส่วนผู้เล่นยังคงเป็นชุดใหญ่
"ถามว่ามั่นใจหรือไม่กับการคว้าเหรียญทองของทีม โดยส่วนตัวเรามีควมมั่นใจแต่อาจจะน้อยกว่าผู้หญิงหน่อย แต่ก็พยายามที่จะเหรียญทองมาให้ได้ทั้งทีมชายและทีมหญิง อย่างไรก็ตามซีเกมส์ครั้งนี้สมาคมฯ ก็พยายามเปิดโอกาสให้เด็กนรุ่นใหม่ได้เล่น ซึ่งก็มีการเรียกทั้งนักกีฬาชายและหญิงมาเก็บตัวร่วม ส่วนใครที่โค้ชเขามองแล้วว่าสามารถทดแทนรุ่นพี่ได้เขาก็จะส่งลงทดลองเกม"
อย่างไรก็ตามแม้เวลานี้ทีมหญิงจะก้าวพ้นคำว่าซีเกมส์ไปแล้วแต่ถึงยังไงก็ไม่ควรประมาทเช่นเกียวกัน
3ทองธนูไทยความหวังที่ต้องพิสูจน์!!!
ความผิดหวังซ้ำซาก และถูกตอกย้ำอยู่บ่อยๆ หากใครที่ไม่ยอมแพ้ ก็นำเอาความผิดหวังมาสร้าง"แรงกระตุ้น" ให้แก้ไขข้อผิดพลาดเพื่อเดินไปหาความสำเร็จให้ได้ แม้มันจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
ปืนไทยลำบาก เจ้าทองยาก!!!
ตั้งแต่กำเนิดศึกกีฬาซีเกมส์มาแล้ว 25 ครั้งนับระยะเวลาก็กว่า 50 ปี กีฬายิงปืน ถือว่าเป็นหนึ่งในกีฬาระดับต้นๆของไทยที่เป็น "ความหวัง" ในการคว้า "เหรียญทอง" ให้ชาติได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
กรีฑาไทยมั่นใจรักษาบังลังค์เจ้าซีเกมส์
14 ทอง จาก 46 เหรียญทอง คือจำนวนเหรียญที่ทัพกรีฑาไทยตั้งเป้าเอาไว้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ อินโดนีเซีย
โต๊ะเล็กชาย-หญิงซีเกมส์ทางสะดวก ฝีเท้าพระกาฬขั้นเทพการันตี 2 ทอง
ฟุตซอลชายและหญิงของทีมชาติไทยดูจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าการ เดินทางไปแข่งขันในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซียในระหว่าง 11-22 พ.ย.54 ค่อนข้างที่จะมีโอกาสสูงสำหรับการคว้าเหรียญทองได้ทั้ง 2 ประเภท เนื่องจากคู่ต่อกรในย่านอาเซี่ยนทั้งหลายยังไม่ถือว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นคู่ แข่งสำคัญของทีมชาติไทยในชั่วโมงนี้
ยังบลัดโต๊ะเล็กชายพร้อมพิสูจน์ฝีมือ
ฟุตซอลสาวขอสู้สุดใจแม้ไร้คู่ต่อกร
เป้า 4 ทองตะกร้อไทยไม่ง่าย
ตลอดช่วงเวลา 4 ปี ของการชิงชัยของมหกรรมกีฬา "ซีเกมส์" สองครั้งที่ผ่านมา "ทัพนักหวดลูกพลาสติกหนุ่ม-สาวทีมชาติไทย" สามารถโชว์ลีลาชั้นเชิงหวายได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยผลงาน 13 ทอง 1 เงิน โดยแบ่งเป็น "โคราชเกมส์" 8 ทอง และใน "เวียงจันทน์เกมส์" อีก 5 ทอง 1 เงิน จนทำให้ "ไทย" เป็นเจ้าแแห่งวงการลูกหวายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อย่างต่อเนื่อง
เทนนิสมีลุ้นฟัน 4 ทองสูง!
แม้การเปิดตัวทีมนักหวดลูกสักหลาดไทยชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซียจะไม่มีชื่อของ ''แทมมี่'' แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นักหวดสาวมือเก๋าร่วมทัพ
แต่...ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าในส่วนของทีมหญิงที่ดึงนักหวดรุ่นใหม่ลงสนาม
ไม่ว่าจะเป็น ''น้องนก'' นพวรรณ เลิศชีวกานต์ มือ 168 ของโลก, ''น้องเพียซ'' วรัชญา วงค์เทียนชัย มือ 230 ของโลก, ''น้องอีฟ'' ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย มือ 312 ของโลก และ ''น้องจิ๊บ'' หนึ่งนัดดา วรรณสุข มือ 453 ของโลก
ทุกคนล้วนเป็นคลื่นลูกใหม่ที่กำลังฟอร์มดี โดยเฉพาะ น้องนก น้องเพียซ และ น้องอีฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการสร้างผลงานที่เยี่ยมยอดในการแข่งขันเทนนิสอาชีพ
ขณะที่ น้องจิ๊บ เพิ่งกระชาก 1 ทอง 1 เงินในกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 26 เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และยังผ่านเวทีหวดอาชีพมาแล้วมากมาย
ในประเภททีมหญิงหากจะพูดว่าทีมหวดสาวไทยนับว่าดีที่สุดในอาเซียน โอกาสคว้าเหรียญทองมาได้ทั้ง 3 ทอง จากทีมหญิง, หญิงเดี่ยว และ หญิงคู่ มีสูง
แม้จะมีคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้อย่าง ฟิลิปปินส์ และ เจ้าภาพ อินโดนีเซีย อยู่ก็ตาม
เพราะนักหวดทั้ง 2 ชาตินี้เคยถูกสาวไทยต้อนขาดมาแล้วในรายการอาชีพ
ขณะที่ทีมชายนั้นแม้จะได้นักหวดตัวหลักชุดเดวิสคัพลงสนาม ไม่ว่าจะเป็น ''เจ้าปิ๊ก'' ดนัย อุดมโชค มือ 1 ไทย มือ 205 ของโลก, ''เจ้าพ้ง'' กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ มือ 524 ของโลก และคู่แฝด ''ต้น-ต้อง'' สนฉัตร กับ สรรค์ชัย รติวัฒน์ มือ 149 และ 151 ของโลกในประเภทคู่ตามลำดับ
แต่ต้องยอมรับว่าทีมชุดนี้ยังเป็นรองคู่แข่งอย่าง ฟิลิปปินส์ ที่ยังขนชุดหลักลงสนามโดยการนำของ เซซิล มามิต นักหวดตัวเก่งเจ้าของแชมป์ชายเดี่ยวซีเกมส์ 2 สมัย
ฟิลิปปินส์ถือเป็นคู่แข่งของไทยทั้งในประเภท ชายเดี่ยว, ชายคู่ และ ทีมชาย
ขณะเดียวกันเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ยังเป็นทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งตลอดกาลของไทย แม้ในศึกเดวิสคัพ 2 ปีที่ผ่านมา ทีมหวดไทยจะเป็นฝ่ายชนะได้ตลอด
แต่ในประเภทบุคคลถือว่านักหวดไทยเป็นรอง...
ประเภทเดี่ยว และ ทีม พูดกันตามตรงโอกาสคว้าเหรียญทองของทีมไทยนั้นอาจจะยาก
ความหวังเดียวฝากไว้ที่ ''แฝดรติวัฒน์'' ในประเภทคู่
แต่ชั่วโมงนี้แม้คู่แฝดจะผ่านประสบการณ์ระดับอาชีพมาสูง ชั่วโมงบินที่เยอะก็ยังแทบจะต้องลุ้นกันเหนื่อยไม่น้อย
ยิ่งแฝดน้อง สรรค์ชัย เพิ่งฟื้นตัวจากอาการเจ็บหลังที่มีมาตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา ประสิทธิภาพการหวดลูกสักหลาดอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนครั้งคว้าแชมป์ คู่ซีเกมส์ 4 สมัยที่ผ่านมา
แต่หากพลาดเหรียญทองนี้ ทีมหวดไทยยังได้ลุ้นหยิบเพิ่มจาก คู่ผสม ซึ่งทีมไทยเป็นแชมป์เก่า
ดังนั้น หากจะพูดว่าการตั้งเป้า 4 ทองไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หรือการหวังสูงสักเท่าไรนัก
เพราะหากไม่มีอาการเจ็บและไม่ประมาทคู่ต่อสู้ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย 11-22 พฤศจิกายนนี้คงได้ยินเพลงชาติไทยดังลั่นสนั่นคอร์ตเทนนิสที่เมืองปาเลมบัง แน่นอน...
ยกเหล็กไทยต้องได้ไม่ต่ำกว่า 4 ทอง
ซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่จะเปิดศึกขึ้นในอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า ทีมยกน้ำหนักของไทยต้องพบกับปัญหาจนได้ เมื่อการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศสก็จะเริ่มในช่วงวันที่ 5-13 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกันของทั้งสองรายการ
สอยคิวไทยต้อง 2 ทองบวกๆเท่านั้น
ในบรรดาชนิดกีฬาที่มีการแข่งขันขึ้นในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ต้องขอบอกว่า "คิวสปอร์ต" กีฬาที่รวมเอาทั้ง สนุกเกอร์,บิลเลียด,พูล และแครอม ไว้ด้วยกัน ถือว่าเจออุปสรรคมากพอสมควรในมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปิงปองหวัง1ทองหญิงคู่
รายชื่อนักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย
ประกาศเดินหน้าล่าทองเต็มตัว สำหรับสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย ขอสัก 1 ทอง
สำหรับซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย คราวนี้ปิงปองเหลือการชิงชัยอยู่เพียง 5 รายการ ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ชายคู่, หญิงคู่ และ คู่ผสม โดยทางเจ้าภาพตัดการแข่งขันประเภททีมชาย-หญิง ออกไปสองเหรียญ
นั่นทำให้ความหวังสูงสุดในการคว้าเหรียญทองของไทยมาจากประเภทหญิง คู่ "แป๋ว" นันทนา คำวงศ์ นักตบลูกเด้งผู้ผ่านสังเวียนโอลิมปิก 3 สมัย และ "น้อง" อนิศรา เมืองสุข จอมเก๋ารุ่นใหญ่ของทีม แม้ว่าจะเป็นรองสิงคโปร์ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก แต่ทั้งสองสาวก็ยืนยันว่า ได้เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี และจะสู้จนถึงที่สุด
ส่วนอีกคู่ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามา สุทธิลักษณ์ รัตนประยูร อีกหนึ่งนักตบประสบการณ์สูงจะประสานงานกับ อารียา แสงเป๋า ที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก ในวัยเพียง 17 ปี
ขณะที่ "น้องหญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร อันดับ 4 ยูธโอลิมปิกเกมส์ และแชมป์หญิงเดี่ยวประเทศไทย เมื่อปี 2553 วัย 17 ปี ไม่ติดทีมชุดนี้ เนื่องจากน้องหญิงยื่นเงื่อนไข ต้องมี อ.ไกรวัล ศุภประเสริฐ โค้ชประจำตัวเป็นโค้ชทีมชาติด้วย ถึงจะเล่นทีมชาติ แต่ทางสมาคมปฏิเสธ จึงเป็นเหตุให้สุธาสินีไม่ติดทีมชุดนี้
ส่วนทีมชาย ขณะนี้เมื่อพี่น้อง "สงวนสิน" ภุชงค์-ภาคภูมิ หันหลังให้กับทีมชาติ ก็เหลือเพียง "เจ้าอัน" ชัยศิษฏ์ ชัยทัศน์ ที่เป็นพี่ใหญ่ของทีม ประคองรุ่นใหม่อีก 3 คน ได้แก่ นิคม วงค์สิริ, ยุทธนา ทับบุญมี และ สุริยะ ประเสริฐศรี
กรกิจ เสริมกิจเสรี โค้ชลูกเด้ง เผยว่า โอกาสที่จะได้เหรีญทองของหญิงคู่ ในคู่ของแป๋ว กับ น้อง พอเป็นไปได้ แม้จะเป็นรองสิงคโปร์อยู่บ้าง แต่ก็ได้มีการเตรียมตัวฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี อีกทั้งในการแข่งขันโกลเดน แรกเก็ต ที่ประเทศเวียดนาม เมื่อเดือนกรกฎาคม คู่นี้ก็สามารถคว้าเหรียญทองมาได้ ช่วยสร้างความมั่นใจมากขึ้น
ส่วนประเภทชายต้องยอมรับว่า มีเพียงชัยศิษฏ์ที่ประสบการณ์สูง ส่วนคนอื่นยังค่อนข้างใหม่ ดังนั้น หากมีเหรียญรางวัลมาติดไม้ติดไม้ติดมือมาบ้าง ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว
ขณะที่ชัย ศิษฏ์ พี่ใหญ่ของลูกเด้งชาย กล่าวว่า การเตรียมตัวนักกีฬาก็พร้อมเต็มที่ ซึ่งถ้าจับสลากแบ่งสายเลี่ยงสิงคโปร์ได้ ก็น่าจะมีโอกาสหยิบเหรียญได้เหมือนกัน
รายชื่อนักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย
รายชื่อนักกีฬา | น้ำหนัก(กก.)/ ส่วนสูง(ซม.) | ว/ด/ปเกิด | ภูมิลำเนา | การศึกษา |
ทีมชาย | ||||
ชัยศิษฏ์ ชัยทัศน์ ยุทธนา ทับบุญมี นิคม วงค์สิริ สุริยะ ประเสริฐศรี | 62/177 65/168 62/178 61/167 | 14 ก.พ. 2523 16 พ.ย. 2529 23 ก.พ. 2529 2 มี.ค. 2529 | จันทบุรี พิจิตร นครนายก พิจิตร | ป.ตรี ม.ศรีปทุม ป.โท ม.เกริก ปี 3 ม.รัตนบัณฑิต ป.ตรี ม.เกริก |
ทีมหญิง | ||||
นันทนา คำวงศ์ อนิศรา เมืองสุข สุทธิลักษณ์ รัตนประยูร อารียา แสงเป๋า | 51/159 46/149 50/153 45/153 | 13 ก.ย. 2523 6 ต.ค. 2519 12 ธ.ค. 2523 28 ก.ย. 2537 | ลำปาง กทม. โคราช โคราช | ป.ตรี ม.หอการค้าไทย ปวส. ร.ร.กรุงเทพพาณิชยการ ป.ตรี ม.ศรีปทุม ม.5 ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย |
โค้ช กรกิจ เสริมกิจเสรี |
เปตองไทยตั้งเป้าแค่ 2 ทองบวก หากได้เกิน 3 ทองถือว่ากำไร !
โดยทาง ''อินโดฯ'' นั้นได้ตัดรายการการแข่งขันใน 5 ประเภท ประกอบด้วย ทีมชาย, ทีมหญิง, ทีมผสมชาย 2 หญิง 1, ทีมผสมชาย 1 หญิง 2 และคู่ผสม ซึ่งทุกรายการที่ตัดออกไปนั้นล้วนเป็น ''อีเวนต์'' ที่ทีมไทยเป็นแชมป์เก่าเกือบทุกรายการ
จากเหตุดังกล่าวทำให้ส่งผลกระทบต่อ ''ความหวัง'' ในการเป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬา ''เปตอง'' ลดน้อยลงไปด้วย เพราะทั้ง 6 รายการที่มีแข่งขันในซีเกมส์ครั้งนี้ อย่าง เดี่ยวชาย, เดี่ยวหญิง, คู่ชาย, คู่หญิง, ชูตติ้งชาย และ ชูตติ้งหญิง ล้วนเป็นอีเวนต์ที่ทุกทีมโอกาสคว้าเหรียญทองแบบเท่าๆ กัน
ทำให้ในซีเกมส์หนนี้ ''สมาคมเปตองแห่งประเทศไทย'' ตั้งเป้าหมายไว้เพียงแค่ 2 ทองบวก จาก 6 รายการ ที่มีการเปิดชิงชัยในครั้งนี้เท่านั้น
จนต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายที่ต่ำ มากหากเปรียบเทียบกับเมื่อ 2 ปีที่แล้วใน ''เวียงจันทน์เกมส์'' ที่ทีมไทยสามารถคว้ามาได้ถึง 5 ทอง 1 เงิน 5 ทองแดง
งานนี้ ''ปรารภ ทองประเทศ'' ผู้จัดการทีมเปตองไทย กล่าวว่า เป้าหมาย 2 ทองบวก นั้นอยู่ที่ ประเภท คู่ชาย, คู่หญิง และ ชูตติ้งชาย แต่เป้าหมายหลัก ''ที่ต้องคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้นั้น คือ ประเภท คู่หญิง และ คู่ชาย เพราะในทั้ง 2 รายการดังกล่าวนั้น ทีมไทย ถือว่าเป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ''
''โดยเฉพาะ ''คู่หญิง'' ที่มี เรือโทหญิงทองสี ตะมะโคตร กับ จ่าอากาศเอกหญิง พันธุ์ทิพา วงศ์ชูเวช ที่มี ''ดีกรีแชมป์โลก'' ประเภททีมหญิง อีกทั้งหากเทียบเรื่องฝีมือและผลงานจากการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมา ของ ''คู่แข่ง'' อาทิ ลาว, กัมพูชา และ เวียดนาม ต้องบอกว่า คู่ไทย ยังเหนือกว่าหลายขุมทำให้มั่นใจว่า ''คู่หญิงไทย'' จะสามารถคว้าเหรียญทองได้แน่นอน''
''ส่วน ''คู่ชาย'' ถือเป็นรายการที่ต้องคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้เช่นเดียวกัน เพราะ ''คู่ชายไทย มีดีกรี ''แชมป์เก่า'' ค้ำคออยู่ด้วย สำหรับในครั้งนี้ ไทย ใช้คู่ของ สิบเอกเถลิงเกียรติ์ ภู่สอาด กับ สุขสรรค์ เพียจันทร์ ที่เป็น ''คู่มือ 1'' ของเมืองไทยในเวลานี้ ส่วนคู่แข่งของไทยในประเภทนี้ น่ามี ''คู่กัมพูชา'' ทีมเดียวเท่านั้น เพราะด้วยในการแข่งขันครั้งนี้ กัมพูชา เองต้องแยกผู้เล่นจากกฎที่นักกีฬา 1 คนจะลงแข่งขันได้ 1 ประเภทเท่านั้น ทำให้ ''นักโยนลูกเหล็กเขมร'' มุ่งเน้นไปที่ประเภทเดี่ยว และ ชูตติ้ง ที่เขาถนัดมากกว่า จึงทำให้โอกาสคว้าเหรียญทองของไทยมีมากกว่า''
สำหรับ ชูตติ้งชาย เป็นอีกรายการที่เรามีความหวังลึกๆ ในการคว้าเหรียญทอง เนื่องจากในประเภทนี้ ''คู่แข่ง'' จาก ''กัมพูชา'' มีความแข็งแกร่งมากอีกทั้งยังมีดีกรีเป็นถึง ''แชมป์โลก แต่อย่างไรก็ตามเรายังมีความหวัง เพราะในประเภทนี้เป็นสู้กันด้วยความแม่นยำและตนคิดว่าจากการฝึกซ้อมที่ผ่าน มา ศราวุฒิ ศรีบุญเพ็ง ชูตติ้งเบอร์ 1 ของเรามีความแม่นยำไม่แพ้กัน และอยู่ที่ว่าในวันแข่งขันใครจะพลาดน้อยกว่ากันเท่านั้น จึงทำให้คิดว่า ศราวุฒิ น่ามีโอกาสคว้าเหรียญทองคล้องคอได้เช่นกัน''
ผู้จัดการทีมเปตองไทย กล่าวต่ออีกว่า ''ส่วนในประเภท เดี่ยวชาย, เดี่ยวหญิง และ ชูตติ้งหญิง เป็น 3 รายการไม่ตั้งเป้าอะไรไว้นั้น เนื่องจากทั้ง 3 รายการนั้นนักกีฬาทุกชาติ ไม่ว่าจะเป็น ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา หรือ ไทย เองมีฝีมือและผลงานใกล้เคียงจนทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะหยิบเหรียญทองได้ จึงต้องเป้าหมายไว้เพียง 2 ทองบวกเท่านั้น
''อย่างไรตาม เราขอสู้เต็มทุกรายการเพื่อทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดเพื่อเป้าหมาย 2-3 เหรียญทองแต่หากได้เกิน 3 เหรียญทอง นั้นต้องถือว่าเป็น ''กำไร'' ของทัพเปตองไทย''
โดยจัดทั้งหมด 42 ชนิดกีฬา ชิงชัย 545 เหรียญทอง
ขณะที่ในส่วนของการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งเป็นหน้าที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ก็ได้ดำเนินการมาอย่างดีและต่อเนื่อง
จนได้ข้อสรุป ไทยจะส่งทัพนักกีฬาไปร่วมแข่งขัน 853 คน ใน 39 ชนิดกีฬา มีเป้าหมายในการเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาสากล ที่จัดในครั้งนี้ 22 ชนิดกีฬา
แต่หากรวมทุกชนิดกีฬา เป็นที่คาดว่าจะได้อันดับ 2 เหรียญรวม เนื่องจากอินโดนีเซีย ที่จะได้อันดับ 1 ส่งเต็มอัตรา และอัดกีฬาพื้นบ้านที่ถนัดเข้าไปมากมาย
นั่นเป็นส่วนของการเตรียมนักกีฬา และนอกจากนี้เมื่อระหว่างวันที่ 1-2 ต.ค.ที่ผ่านมา กกท. ก็ยังทำงานหนักอีกด้านควบคู่กันไป
คณะของ กกท. นำโดย นางสมคิด ปิ่นทอง รองผู้ว่าการ กกท. ได้เดินทางไปสำรวจสนามซีเกมส์ใน 2 เมืองดังกล่าว เพื่อนำมาเป็นข้อมูลให้ทัพไทย ที่จะไปแข่งขันด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจข้อมูลสนามแข่งขัน ที่พัก อาหาร การจราจร และการเดินทาง
เริ่มจากที่เมืองปาเลมบัง คณะได้เดินทางไปยังสนามจากาบาริง สปอร์ต ซิตี้ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ใช้แข่งขัน 16 ชนิดกีฬา
ส่วนที่เหลืออย่างเช่น วอลเลย์บอล มวยสากลสมัครเล่น และกระโดดน้ำ ต้องออกไปแข่งขันนอกเมืองปาเลมบัง
"ที่เมืองปาเลมบัง สนามบางแห่งยังก่อสร้างไม่เสร็จ เช่น สนามกรีฑา ว่ายน้ำ เปตอง แต่ฝ่ายจัดยืนยันว่าวันที่ 15 ต.ค.นี้ จะเรียบร้อยตามกำหนด
ส่วนหมู่บ้านนักกีฬา ไม่มีปัญหา เจ้าภาพก่อสร้างเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 3 ตึกๆ ละ 369 ห้อง โดยต้องพักห้องละ 6 คน มีอยู่ 2,200 เตียง ซึ่งถือว่าคับแคบพอสมควร
ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในเมืองปาเลมบัง คือ สภาพอากาศ จะมีกลุ่มควันที่เกิดจากไฟไหม้ป่าในเกาะสุมาตรา ที่เริ่มขยายวงกว้าง
ทำให้นักกีฬาที่เป็นภูมิแพ้จะต้องดูแลตนเองมากเป็นพิเศษ ควรเตรียมยา ปรึกษาแพทย์มาก่อนเดินทางก็จะดี" นางสมคิด กล่าว
ขณะที่กรุงจาการ์ตา นางสมคิด กล่าวว่า สนามส่วนใหญ่ในเมืองหลวง ถือว่ามีความพร้อมเป็นอย่างดี
เนื่องจากอินโดนีเซีย ใช้สนามที่มีอยู่แล้วในการจัดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอล ก็ใช้สนามเสนายัน ที่เคยใช้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 19 เมื่อปี 2540
แต่ความจุของสนามน้อยลง เพราะถูกปรับให้เป็นที่นั่งทั้งหมด จากหลักแสน เหลือเพียง 88,000 ที่นั่ง
นอกจากนี้สนามเทเบิลเทนนิส ก็ดัดแปลงมาจากสนามบาสเกตบอล ก็ไม่มีปัญหา สนามแบดมินตัน ก็ใช้แข่งแมตช์นานาชาติอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเช่นกัน
ภาพรวมของการเตรียมการที่กรุงจาการ์ตา ไม่มีปัญหาใดๆ
เพียงแต่ที่น่าห่วง คือ ปัจจัยแวดล้อม โดยเฉพาะการจราจร ที่ติดขัด เพราะมีรถมาก
ในเรื่องนี้ขอให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ทุกกีฬา เผื่อเวลาการเดินทางไปแข่งขันเอาไว้ล่วงหน้า เพราะหากไปไม่ทัน จะทำให้ไทยเสียสิทธิ์ไป
"ส่วนเรื่องความปลอดภัยที่กรุงจาการ์ตา ไม่น่าเป็นกังวล เนื่องจากเจ้าภาพมีระบบป้องกันที่ดี มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว
แต่ที่เมืองปาเลมบัง ยังถือว่าน่าห่วง เนื่องจากเป็นเมืองที่มีการพัฒนาใหม่ เพื่อการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้" รองผู้ว่าการ กกท. กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งหมดนับเป็นข้อมูลที่สำคัญ ซึ่ง กกท. ส่งทีมงานไปสำรวจ ไปลงพื้นที่ในสถานที่จริงล่วงหน้า ก่อนที่กีฬาซีเกมส์จะเปิดฉากในอีกไม่ถึงเดือน
จึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย…
นักกีฬาที่คิดอย่างนี้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นได้ยากจริงๆ เพราะกำลังใจที่คิดว่าไปแข่งเพื่อจะแพ้ ไม่อาจจะสร้างแรงบันดาลใจหรือแรงกระตุ้นให้กับนักกีฬาแล้ว
ฉะนั้นการแข่งขันทุกครั้งต้อง ''ตั้งเป้า'' และพยายามเดินไปให้ถึงฝัน แม้มันจะยากแต่หากทำเต็มที่ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว!!!
เช่นเดียวกับทัพนักปั่นไทยที่เตรียมลงกรำศึกในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ''แดนอิเหนา'' ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งซีเกมส์ครั้งนี้ ''อิเหนา'' ได้บรรจุให้มีการแข่งขันจักรยาน ''ล้อเล็ก'' บีเอ็มเอ็กซ์ ขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะ อินโดนีเซีย มีนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์อยู่ในมือที่มีประสบการณ์เพียบ
ในขณะที่ไทยเมื่อรู้ว่าอินโดนีเซีย บรรจุบีเอ็มเอ็กซ์ สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย รีบขอโควตาส่งโจ๋ล้อเล็ก ''เจ้าบิ๊ก'' ณรงค์ กลิ่นสุหร่าย ไปฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อหวังจะสร้างกระดูกให้แข็งแกร่งมาขับเคี่ยวกับนัก ปั่น ''เจ้าภาพ'' ซึ่งมีโอกาสลุ้นได้ทั้งชายและหญิง โดยบีเอ็มเอ็กซ์หญิง ที่ได้ ''เจ้ากิ๊ก'' ทักษพร ขาวสุวรรณ แชมป์ประเทศไทย 5 สมัยมือ 1 บีเอ็มอ็กซ์ มาเก็บตัวจากนั้นสมาคมฯ ก็ยอมควักงบประมาณจ้างอดีตแชมป์โลก มร.เฮอวี่ เครป มาเป็นผู้ฝึกสอนให้กับนักกีฬา
แม้...ระยะเวลาที่ เฮอวี่ มาอยู่เมืองไทยจะมาแค่ไม่กี่เดือน แต่สามารถพัฒนาทักษะ และสร้างพละกำลังให้กับนักกีฬามีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด สร้างความหวัง ''เหรียญทอง'' ของไทยให้ชัดเจนมากขึ้นมิใช่เป็นเพียงไม้ประดับของเกมครั้งนี้
แต่...ซีเกมส์ครั้งนี้ อินโดนีเซียจะสกัดหนทางสู่เหรียญทองของไทยทุกทาง เพิ่มอีเวนต์ที่ตัวเองมีความหวังและตัดอีเวนต์ที่เป็นของไทย อย่างในลู่ ''อิเหนา'' เจ้าเล่ห์ตัดอีเวนต์ที่มีแข่งในโอลิมปิกจนเกลี้ยง สุดท้ายสมาพันธ์จักรยานเอเชียไม่ยอมบังคับให้บรรจุ หากไม่ยอมบรรจุอีเวนต์สากล ก็ยื่นไม้ตายจะไม่รับรองผลการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้
โดนไม้นี้เข้าไป ''อิเหนา'' เหลี่ยมหักร่อนหนังสือแจ้งประเทศสมาชิกจะเพิ่มอีเวนต์จักรยานอีก 6 อีเวนต์ที่ตัดออกไป แต่จะแข่งได้หรือไม่ต้องอยู่ที่ดุจพินิจของมนตรีซีเกมส์ ที่จะประชุมกันปลายเดือนตุลาคมนี้ งานนี้ ''อิเหนา'' คงวิ่งเต้นให้ประเทศสมาชิกช่วยกันยกมือให้การเพิ่มอีเวนต์ในครั้งนี้เป็นผล อย่างแน่นอน สำหรับอีเวนต์ลู่อินโดนีเซีนตกหลุมพลางตัวเอง !!!
ในขณะอีเวนต์ต่างๆ ยังไม่นิ่งแต่ทัพนักปั่นไทยก็เตรียมการฝึกซ้อมไว้ทุกรูปแบบเท่าที่รู้ข้อมูล มา อย่างถนนที่ ''น่องเหล็กสาวไทย'' เป็นเจ้าของเหรียญทองทั้งไทม์ไทร์อัล จาก ''ป้ากอล์ฟ'' มนฤดี ชาภูคำ และอินไลน์เรส จาก ''เจ้าบีช'' จุฑาธิป มณีพันธุ์ อินโดนีเซีย จึงปล่อยข่าวออกมาว่า ไทม์ไทร์อัล จะเป็นเส้นทางปั่นลงเขา เพราะ จันทร์เพ็ง และ มนฤดี ปั่นลงเขาไม่ได้ โดยเฉพาะ จันทร์เพ็ง กลัวการปั่นลงเขามากที่สุด
ส่วนอินไลน์เรส ''เจ้าบีช'' ที่เป็นตัวลู่มีสปรินต์ดี หากเป็นทางราบ การันตีได้เลยว่า เสร็จนักปั่นไทย อิเหนาจึงจัดเส้นทางให้เป็นทางขึ้นเขา มีทางราบเพียงแค่ 30 กม. ที่เหลือปั่นไปเข้าเส้นชัยบนยอดเขา
ข้อมูลที่สองล้อไทยได้มา ทำให้ ''เสธ.หมึก'' พล.ต.เดชา เหมกระศรี เลขาธิการสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย หนักอกไม่น้อย จึงเตรียมรับมือเอาไว้ทุกทาง โดยส่งชุดถนนไปฝึกซ้อมไกลถึงเชียงใหม่ โดยยึดเอาดอยอินทนนท์ เป็นสังเวียนซ้อม เพื่อหวังจะแก้จุดอ่อนของสองความหวังไทย ส่วนลู่ ก็ส่ง 3 นักปั่นความหวังเหรียญทอง จุฑาธิป, ชนากานต์ ศรีชะอุ่ม และ ''เจ้าป๋อม'' ธุรกิจ บุญรัตนธนากร ไปเก็บตัวที่ออสเตรเลีย 1 เดือนสุดท้ายเพื่อฝึกซ้อมลู่โดยเฉพาะ
''ครั้งที่แล้วไทยได้ 3 เหรียญทองจากถนน และเสือภูเขา แต่ที่ลาวไม่มีแข่งประเภทลู่ แต่ครั้งนี้มีเพิ่งลู่เข้ามาด้วย และอย่างที่รู้ว่าอินโดนีเซียจัดแข่งเฉพาะอีเวนต์ที่ตัวเองมีความหวัง แม้จะถูกบีบให้เพิ่มอีเวนต์สากลไปอีก 6 รายการ แต่มนตรีซีเกมส์จะรับรองหรือไม่ต้องลุ้น ในส่วนของไทยนั้นไม่มีปัญหา เพราะนักกีฬาของเราเล่นในอีเวนต์ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่แล้ว เช่น โอเนียม ทีมสปรินต์ จึงไม่ส่งผลกระทบกับการเตรียมทีมหากเพิ่มขึ้นมาก็ส่งรายชื่อเพิ่มอีเวนต์ไป เพิ่ม''
''สำหรับความหวังยอมรับว่าหวังแค่ 2 ทองเท่านั้น บวกลบจากบีเอ็มเอ็กซ์อีก 1 ทองเพราะไปแข่งที่อินโดนีเซียเราเคยมีประสบการณ์จากซีเกมส์ครั้งที่ 19 มาแล้ว อินโดนีเซีย แกล้งไทยสารพัด รับส่งนักกีฬาไม่ตรงตามเวลา รวมถึงเวลาซ้อมก็จะมีคนเข้าไปกวนในแทร็กปาก้อนหินเข้าไปทำให้นักกีฬาซ้อมได้ ยากขึ้น และผมเชื่อว่าในส่วนของเสือภูเขาครอสคันทรี ที่ ธวัชชัย มะเส เป็นแชมป์เก่าอยู่ ปีนี้คาดหวังเหรียญทองยากมาก เพราะเราไม่รู้สภาพสนาม จะรู้ก็เมื่อไปถึงที่สนามแข่งแล้ว''
''ส่วนดาวน์ฮิล แม้ไทยจะเป็นแชมป์เอเชีย ทั้งชาย หญิง คือ ธนพล จารุเพ็ง กับ วิภาวี ดีคาบาเลส แต่แข่งครั้งนี้บอกนักกีฬาไว้แล้วว่า เราไปแข่งบ้านเค้า ไม่ต้องกดดันว่าเป็นแชมป์เอเชีย เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับการใช้ชีวิตอยูที่อินโดนีเซีย เรื่องฝีมือมั่นใจว่านักปั่นไทยสู้อินโดนีเซียได้สบาย แต่อาจจะสู้เล่ห์เหลี่ยมของเจ้าภาพไม่ได้ แต่ปั่นไทยเตรียมสู้เต็มที่แรกๆ หลายคนอาจจะท้อและถอดใจกลัวการเชียร์ของอินโดนีเซีย แต่ผมก็บอกนักกีฬาไปแล้วว่า สู้เต็มที่อย่าเพิ่งถอดใจ ทุกคนซ้อมมาเหนื่อย หากจะแพ้ ต้องแพ้ในสนามมิใช่แพ้ใจตัวเอง''
2 เหรียญทองคือ เป้าหมายที่ ''เสธ.หมึก'' พล.ต.เดชา เหมกระศรี ตั้งเอาไว้หากทำได้มากกว่า 2 เหรียญทองถือเป็นกำไร เพราะซีเกมส์ครั้งนี้ นอกจากนักปั่นไทยจะสู้กับคู่แข่งแล้วยังต้องสู้กับคน ''อิเหนา'' ทั้งประเทศ
ซีเกมส์ครั้งนี้ คู่แข่งที่สำคัญของนักปั่นไทยจึงมิใช่'' อิเหนา'' แต่เป็น ''ตัวเอง'' !!!
อรอุมา เวชกุล รายงาน ประเภทลู่ 1.ธุรกิจ บุญรัตนธนากร 2.โอกาส บัวลอย 3.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ 4.สัจจกุล เสียงล้ำ 5.จุฑาธิป มณีพันธุ์ 6.ชนากานต์ ศรีชอุ่ม 7.พันวราภรณ์ บุญสวัสดิ์ 8.จันทร์เพ็ง นนทะสิน 9.มนฤดี ชาภูคำ ประเภทถนน 1.นวุ ติ ลี้พงษ์อยู่ 2.สราวุฒิ สิริรณชัย 3.ธนศักดิ์ ธารชัย 4.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ 5.ธุรกิจ บุญรัตนธนากร 6.โอกาส บัวลอย 7.มนฤดี ชาภูคำ 8.จันทร์เพ็ง นนทะสิน 10.พันวราภรณ์ บุญสวัสดิ์ 11.วิไลวรรณ กุลภา 12.จุฑาธิป มณีพันธุ์13.ชนากานต์ ศรีชอุ่ม
ประเภทเสือภูเขา (ครอสคันทรี) 1.จ่าอากาศเอก พีระพล ชาวเชียงขวาง 2.อภิสิทธิ์ เจริญกิจ 3.ณัฐวัฒน์ ศุภชีวะกุล 4.ธวัชชัย มะเส
ประเภทเสือภูเขา (ดาวน์ฮิล) 1.ธนพล จารุเพ็ง 2.ฉัตรชัย จารุเพ็ง 3.วิภาวี ดี คาบาเลส 4.ทักษพร ขาวสุวรรณ ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ 1.ณัฐสุดา ว่องไว 2.วิภาวี ดี คาบาเลส 3.ทักษพร ขาวสุวรรณ 4.ณรงค์ กลิ่นสุหร่าย 5.ปัญญาพล ศรกล้า 6.จักรเพชร วิชนา
มหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่กำลังจะอุบัติขึ้นในระหว่างวันที่ 11-22 ต.ค. 54 ณ ดินแดนถิ่นกำเนิดนิทาน ''อิเหนา'' อินโดนีเซีย กีฬา ''เปตอง'' ที่ถือเป็นอีกหนึ่งในชนิดกีฬา ''ความหวัง'' ของ ''ทีมไทย'' ที่ถูก ''เจ้าภาพ'' อินโดนีเซีย หั่นการชิงชัยจาก 11 รายการ ให้เหลือเพียง 6 รายการเท่านั้น
จนต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายที่ต่ำ มากหากเปรียบเทียบกับเมื่อ 2 ปีที่แล้วใน ''เวียงจันทน์เกมส์'' ที่ทีมไทยสามารถคว้ามาได้ถึง 5 ทอง 1 เงิน 5 ทองแดง
กกท.สำรวจซีเกมส์ ปูทางให้ทัพไทย
ตามที่ประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 11-22 พ.ย.นี้ ใน 2 เมืองสำคัญ กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเลมบัง
2ล้อหวั่นเล่ห์อิเหนาขอ2ทองก็หรูแล้ว
แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แข่ง!!!
อรอุมา เวชกุล รายงาน
รายชื่อนักกีฬา ในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 11 - 22 พฤศจิกายน 2554
2 ทองเป้าอย่างต่ำทัพทอยแก่นไทย
11 เหรียญทอง คือจำนวนเหรียญในการชิงเหรียญของ กีฬาโบว์ลิ่งในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ ประเทศอินโดนีเซีย
หลายปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าในมหกรรมซีเกมส์นั้น สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เป็นอีก 1 ชนิดกีฬาที่สามารถทำเหรียญมาประดับให้กับทีมชาติไทยได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 นี้ ทำให้สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ถูกจับตามองอีกครั้งว่าจะสามารถช่วยทำเหรียญให้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
โดยในการแข่งขันโบว์ลิ่งในซีเกมส์ครั้งนี้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 พ.ย.-20 พ.ย. 54 ซึ่งจะแข่งขันกันที่ เมืองจาการ์ตา
2 ทอง คือเป้าหมายที่ทางสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ตั้งโล่เอาไว้ สำหรับเด็กชุดนี้ เมื่อดูจากรายชื่อของนักกีฬาทีมชาติชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ถือเป็นการถ่ายเลือดเก่าเข้าสู่เลือดใหม่ โดยทีมชายนั้น มี 2 ตัวหลักที่มีประสบการณ์การแข่งขันทั้งในระดับซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์ ก็คือ ''เจ้าโจ้'' ญาณพล ลาภอาภารัตน์ และ บดินทร์ เลิศพิริยะสกุลกิจ ส่วนที่เหลือนั้น เป็นเด็กชุดใหม่ ประกอบด้วย พีรวิชญ์ รุ่งเจริญ, วรเชษฐ์ อารยะวิเศษวงศ์, ภูมินทร์ กลั่นบิดา และอัจฉริยะเช็ง และนี่คือซีเกมส์ ครั้งแรกของพวกเขา
แม้ทีมชายนั้นจะเป็นเด็กใหม่เกือบค่อนทีม แต่ศักยภาพของเด็กชุดนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะทุกคนไต่เต้ามาจากการสร้างชื่อในประเภทเยาวชนระดับนานาชาติขึ้นมา รวมถึงในเวทีชิงแชมป์โลก พีทีที เวิลด์ โบว์ลิ่ง ทัวร์ 2011 ซึ่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ทัพทอยแก่นไทยชุดนี้ทำผลงานได้เป็นอย่างดีทีเดียว โดยเกือบทั้งหมดนั้นสามารถผ่านเข้าถึงรอบมาสเตอร์ 42 คนสุดท้ายและหลายคนต่างก็สามารถผ่านไปถึงรอบลึกได้อย่างยอดเยี่ยม
แถมในครั้งนี้นักทอยแก่นสายเลือดใหม่อย่าง ''เจ้าบาส'' พีรวิชญ์ รุ่งเจริญ ได้แจ้งเกิดด้วยการทำได้อันดับ 7 ในศึกโบว์ลิ่งโลก ทำให้ซีเกมส์ในครั้งนี้เขาเป็นอีก 1 คนที่น่าจับตามองนอกจาก ญาณพล ลาภอาภารัตน์ ที่เป็นตัวหลักที่จะนำเหรียญทองมาฝากพี่น้องชาวไทย ซึ่งดูจากผลงานของทีมชายที่ผ่านมาในช่วงก่อนจะแข่งขันซีเกมส์นั้น ต้องบอกว่า ประเภทชายนั้นได้ลุ้นเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะทีมชาย ณ ขณะนี้นั้นค่อนข้างจะแข็งแกร่งเลยทีเดียว
ขณะที่ นักกีฬาหญิงนั้น นำโดย อังคณา เนตรวิเศษ, เบญจวรรณ พวงทอง, ญาณี แซ่เบ้, ธนาปรางค์ เสถียร, ณัฐธิดา เสริฐลือชา และจันทนี สารสว่าง ชุดนี้ก็เป็นการผสมผสานระหว่างนักกีฬามากฝีมือกับนักกีฬาเยาวชนที่เพิ่งขึ้น มาติดทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งนักกีฬาหญิงนั้น ถ้ามองในภาพค่อนข้างจะเป็นรอง เจ้าภาพอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่มีนักกีฬามากประสบการณ์อยู่ในทีม ดังนั้น ในประเภทหญิงถ้าจะให้มีเหรียญติดมือ คงต้องมองเป็นเดี่ยวหญิงจาก อังคณา เนตรวิเศษ และ ญาณี แซ่เบ้ เป็นหลัก
ด้าน นางสุวลัย ศัตรูลี้ เลขาธิการสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย กล่าวถึงซีเกมส์ ในครั้งนี้ว่า ''ก็ต้องบอกว่าหลายชาตินั้นแข็งขึ้นมาก แต่เราก็ต้องตั้งเป้าไว้ก่อนที่ 2 ทองเป็นหลัก โดยในครั้งนี้เราหวังจากหรียญทองจากชายคู่และทีมชาย 5 คน โดยระบบน้ำมันก็ต้องบอกว่าค่อนข้างจะยาก เพราะมีหลายระบบ เพราะมีทั้งสั้นและยาว แต่ล่าสุดสมาคมฯ ได้ส่ง ญาณพล ลาภอาภารัตน์ ไปทดสอบสนามแข่งขันที่ประเทศอินโดนีเซีย และสามารถคว้าแชมป์มาสเตอร์มาครองได้ ทำให้มีโอกาสลุ้นเหรียญทองให้ได้ตามเป้า ที่สำคัญการทดสอบสนามทำให้นักกีฬารู้ว่าจะต้องใช้น้ำมันแบบไหน สามารถนำมาปรับเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปแข่งขันในเดือนหน้า ตนจึงเชื่อว่าเราน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย หรือถ้าโชคดีกว่านั้นเราอาจจะได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ได้
เชื่อว่าในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 นี้ ทัพโบว์ลิ่งไทยจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายคือ 2 ทองเป็นอย่างต่ำ
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ณ ประเทศไทย (2 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง) 2 ทอง ประเภทคู่ชาย เพิ่มพูล ยะเกษม กับ อรรณพ อารมณ์สราญนนท์ และประเภททีม 5 คนชาย 4 เงิน ประเภทเดี่ยวหญิง อังคณา เนตรวิเศษ, ประเภทคู่ชาย สมเจตน์ กุศลพิทักษ์ กับ ญาณพล ลาภอาภารัตน์, ประเภททีมคู่หญิง อังคณา เนตรวิเศษ-เสาวภา คุณอักษร ประเภททีม 3 คนหญิง กรรณลดา อารีย์, เสาวภา คุณอักษร และ อังคณา เนตรวิเศษ 2 ทองแดง จากประเภททีม 5 คนหญิง และประเภทคู่ผสม ญาณพล ลาภอาภารัตน์-อังคณา เนตรวิเศษ |
"อีเว้นติ้ง" ความหวังเดียวขี่ม้าไทย
ต่างวิธีแต่เป้าหมายเดียวกัน นั้นคือ เหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 26 !!!
ทุนซื้ออาชาตัวใหม่ตั้งแต่ อชก.ที่ผ่านมาและมาถึงตอนนี้ได้รับการฝึกฝนจนขี่ได้ดีทุกอีเว้น
โปรโมชั่นเดือนตุลาคมนี้ สมัครครั้งแรก 1,000 รับอีก 1,000 เหมือนเดิม
ขยายเวลาให้สำหรับแฟนบอลตัวจริง สมัครด่วน คลิ๊กที่แบนเนอร์
สมัครกับเราผ่านแบนเนอร์นี้ เหมือนสมัครกับเว็บโดยตรง
คุณจะไม่เสียค่าน้ำให้ใครทั้งสิ้น
คุณจะไม่เสียค่าน้ำให้ใครทั้งสิ้น
No comments:
Post a Comment